ต่างชาติเก็งกำไร “ค่าบาท” ฟันด์โฟลว์ทะลักหุ้น-บอนด์

เรื่องที่น่าสนใจ เศรษฐกิจ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

“ห้องค้ากสิกรไทย” เผยเดือน พ.ย. ต่างชาติแห่กลับเข้าซื้อสุทธิ “บอนด์-หุ้น” ชี้เฉพาะ 7 พ.ย. วันเดียวซื้อพันธบัตรทะลักกว่า 3 หมื่นล้านบาท ระบุมีแรงเก็งกำไร “ค่าเงินบาท” จากความหวังจีนคลายมาตรการซีโร่โควิด มองปลายปี “เงินบาท” มีโอกาสแข็งค่าเร็วขึ้นจากเดิมคาดอยู่ที่ 37.50 บาท ฟาก “บล.กรุงศรี” คาดเงินทุนต่างชาติเข้าหุ้นไทยสะพัดช่วงที่เหลือของปี

นางสาวกฤติกา บุญสร้าง ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เดือน พ.ย. มีฟันด์โฟลว์กลับเข้ามาในหุ้นและบอนด์ค่อนข้างมาก จากที่ก่อนหน้านี้ช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ต่างชาติขายสุทธิทั้งหุ้นและบอนด์

โดยเฉพาะบอนด์ขายสุทธิเดือนละกว่า 2 หมื่นล้านบาท แต่นับตั้งแต่ต้นเดือนจนถึง ณ 8 พ.ย. 2565 (ครึ่งวันเช้า) ต่างชาติซื้อสุทธิบอนด์ไทยแล้วกว่า 48,900 ล้านบาท เฉพาะวันที่ 7 พ.ย. วันเดียวซื้อกว่า 32,100 ล้านบาท ส่วนหุ้นเดือน ก.ย. ต่างชาติขายสุทธิไปกว่า 24,300 ล้านบาท เดือน ต.ค. ซื้อสุทธิกว่า 8,600 ล้านบาท และเดือน พ.ย. จนถึงวันที่ 7 พ.ย. ซื้อสุทธิแล้วกว่า 10,000 ล้านบาท

“ช่วงนี้ค่าเงินบาทแข็ง เพราะแรงเก็งกำไรค่าเงินบาทจากต่างชาติ โดยเฉพาะจากปัจจัยกความหวังการผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์ของจีนที่จะทำให้มีนักท่องเที่ยวกลับมาไทย ที่ตอนนี้มีประมาณ 7.5 ล้านคนในช่วง 10 เดือนแรก ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกเยอะ จากก่อนโควิดที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 40 ล้านคน เลยทำให้มีแรงเก็งกำไรเข้ามาทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทย”

นางสาวกฤติกากล่าวด้วยว่า ห้องค้ากสิกรไทยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการค่าเงินบาทสิ้นปี 2565 จากปัจจุบันที่มองว่าจะอยู่ที่ 37.50 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากมองว่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าได้มากขึ้นจาก range trade ที่ค่อนข้างกว้าง ซึ่งทำให้เงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่าเร็วได้มาก

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดการณ์ฟันด์โฟลว์จะไหลเข้ามาซื้อหุ้นไทย ในลักษณะกระจายลงทุน โดยตอนนี้เน้นลงทุนหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก

ปัจจุบันโฟกัสในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ตามความคาดหมายว่าจีนจะฟื้น ส่วนกลุ่มในประเทศอาจจะยังไม่เห็นโฟลว์ชัดมาก ต้องดูว่าตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/2565 ที่จะประกาศวันที่ 15 พ.ย. 2565 ซึ่งคาดไว้จะโตถึง 3.7% จากระดับ 2.5% ในไตรมาส 2/2565

“ตอนนี้ภาพเศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ย. ทรง ๆ ตัว เลยทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในประเทศอาจจะทรงตัวเช่นกัน คือไม่ลงและไม่ขึ้น ฉะนั้นถ้าโฟลว์จะไหลกลับมาและเปลี่ยนมาลงทุนในกลุ่ม domestic คงต้องรอให้เศรษฐกิจไทยโตดีต่อเนื่อง ซึ่งต้องรอวันที่ 30 พ.ย. 2565 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทย เดือน ต.ค. 2565 ว่าจะฟื้นจริงหรือไม่”

โดยขณะนี้ หากพิจารณาจากปัจจัยตลาดต่างประเทศแล้ว ภาพเศรษฐกิจสหรัฐลดความร้อนแรง ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (dollar index) มีทิศทางอ่อนค่าลง ขณะที่สกุลเงินของยุโรปและปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษ เริ่มมีทิศทางไม่อ่อนค่ามาก จากส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ของอเมริกากับยุโรปและอังกฤษ ที่เริ่มดูสมเหตุสมผลมากขึ้น ขณะที่จีนเริ่มฟื้นตัว

“หากจีนเปิดเมืองจะทำให้ในภูมิภาคเอเชียคงแข็งแรงมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่เริ่มเห็นสัญญาณฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามาในฝั่งเอเชีย ซึ่งรวมถึงไทยอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้” นายเผดิมภพกล่าว